บุญเติมรุกธุรกิจสินค้าเงินผ่อน ดึง 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ใช้ Big Data ต่อยอดธุรกิจ

บุญเติมใช้ Big Data และ AI เป็นฐานสำคัญเดินหน้าโมเดลธุรกิจสินค้าเงินผ่อน ผ่อนนาน ค่างวดต่ำ เจาะกลุ่มชุมชนจนถึงหมู่บ้าน ยกระดับความแข็งแกร่งด้านการให้บริการครบวงจร ร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ นำร่องบริการผ่อนโทรศัพท์มือถือ หวังเติบโตในตลาดสินค้าเงินผ่อน ขยายฐานลูกค้า ยอดขาย และยอดรับชำระผ่านตู้บุญเติม

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (FSMART) ผู้นำเครือข่ายช่องทางบริการ อัตโนมัติและการเงินครบวงจร ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ภายใต้ชื่อ “บุญเติม เปิดเผยว่า บริษัทมี Big Data ซึ่งถือเป็นขุมทรัพย์ข้อมูลด้านการตลาดที่สำคัญในปัจจุบัน เป็นที่มาของการนำข้อมูลมาเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัท ด้านการพัฒนาสินค้าและการบริการให้ตรงกลุ่มลูกค้า “บุญเติม”  และจากฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 20 ล้านราย และกว่า 1.5 ล้านรายการต่อวันในการใช้บริการที่ “ตู้บุญเติม” ทำให้บริษัททราบถึงพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้า ในเชิงลึกทั้งบริการที่ใช้ ยอดการใช้จ่าย ความถี่ในการใช้บริการ รวมถึงบริการที่เลือกใช้ต่อเนื่อง หรือบริการใหม่ที่เข้ามาใช้ในแต่ละครั้ง ทำให้บริษัทมีข้อมูลเพียงพอ ที่ทำให้เห็นรูปแบบพฤติกรรม และความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภครายย่อย ซึ่งยังคงเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ และมีศักยภาพในด้านการตลาด รวมถึงยังเป็นกุญแจสำคัญนำมาซึ่งการพัฒนาแพลตฟอร์มของให้บริการอย่างครบวงจรมากขึ้นในอนาคต

เพื่อรักษาแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทได้เดินหน้าบุกธุรกิจสินค้าเงินผ่อน ที่ยังเป็นตลาดขนาดใหญ่ สามารถสร้างรายได้ โดยเน้นจุดแข็งของ Big Data เป็นสำคัญ และมุ่งเน้นการใช้เน็ตเวิร์กของ “ตู้บุญเติม” กว่า130,000 ตู้ นี้ให้เกิดประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจเงินผ่อน ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเป็นธุรกิจที่สามารถลงถึงระดับชุมชน ตำบล และหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตู้ “บุญเติม” ตั้งอยู่อีกด้วย ยุทธศาสตร์ของบริษัทนี้ จะทำให้บริษัทเป็นธุรกิจครบวงจรในด้านการให้บริการ ครอบคลุมด้านการจำหน่ายสินค้าเงินผ่อน และบริการรับชำระเงินผ่อนที่ “ตู้บุญเติม” เพิ่มเติมจากบริการมากกว่า 80 รายการที่มีอยู่ในปัจจุบัน” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

ปัจจุบันการใช้บริการผ่อนชำระค่าสินค้า จะต้องมีเงินดาวน์ หรือเอกสารค้ำประกัน หรือการเข้าถึงระบบผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตที่มีข้อจำกัด ซึ่งลูกค้ากลุ่มรากหญ้า กลุ่มวัยเริ่มทำงานที่ยังไม่มีบัตรเครดิต หรือลูกค้าที่ไม่มีกำลังซื้อด้วยเงินก้อน ซึ่งบริษัทเล็งเห็นประเด็นดังกล่าว จึงจะมุ่งเน้นการผ่อนชำระที่เข้าถึงหมู่บ้าน และชุมชนห่างไกล และวางมาตรฐานยอดผ่อนให้น้อย ระยะเวลาผ่อนนาน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า 20 ล้านรายให้เข้าถึงบริการเงินผ่อนที่เป็นบริการใหม่ได้เพิ่มเติม พร้อมการเปิดให้บริการจ่ายชำระค่างวดผ่อนผ่าน “ตู้บุญเติม” ซึ่งจะทำให้การบริการด้านการผ่อนชำระค่าสินค้ามีประสิทธิภาพ คล่องตัว และครบวงจร ตอบโจทย์การให้บริการผ่อนชำระ เพื่อผู้บริโภครายย่อยได้อย่างแท้จริง

 การรุกตลาดสินค้าเงินผ่อนครั้งนี้ ได้อาศัยจุดแข็งด้านการเข้าถึงตลาดต่างจังหวัดและชุมชน จับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ทั้ง KBTG หรือ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้กับธนาคารกสิกรไทย ได้นำแพล็ทฟอร์ม AI มาใช้ในการวิเคราะห์ Big Data ของบุญเติมที่มีอยู่ ทำให้สามารถเข้าถึงพฤติกรรมลูกค้าที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung และร้าน TG Fone ที่มีสาขารวมกันกว่า 121 สาขาทั่วประเทศ ร่วมเปิดบริการใหม่ด้านสินเชื่อให้กับลูกค้าบุญเติม โดยลูกค้าประจำของบุญเติมที่เป็นลูกค้าชั้นดี และมีการใช้บริการสม่ำเสมอ จะได้รับสิทธิพิเศษ ในการมารับมือถือ Samsung A12 ที่ร้านTG Fone เพียงแสดงบัตรประจำตัวประชาชน และสามารถผ่อนชำระค่าเครื่องที่ “ตู้บุญเติม” ซึ่งมีกว่า 130,000 ตู้ทั่วประเทศ

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเริ่มต้นในครั้งนี้ นอกจากกำไรจากการจำหน่ายสินค้า ดอกเบี้ย และค่าบริการจากการเติมเงินเข้าระบบแล้ว บริษัทยังสามารถทำให้ลูกค้าของบุญเติม สามารถเข้าถึงระบบผ่อนชำระค่าสินค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย  ซึ่งจะทำให้บริษัทแข็งแกร่งในด้านการให้บริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ภายใต้กลุ่มธุรกิจเติมเงิน-รับชำระเงินอัตโนมัติ การเติมเงินชำระบิล ชำระค่าเบี้ยประกัน และ เติมเงิน E-wallet อีกทั้งธุรกิจด้านการเงินและสินเชื่อครบวงจรให้บริการ โอน ฝาก การยืนยันตัวตนเพื่อบัญชีธนาคารและบริการถอนเงินจากตู้Mini ATM ในไตรมาสนี้ ในส่วนธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและการกระจายสินค้ายังคงมุ่งหน้าขยายจุดติดตั้งคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” ให้ได้ 20,000 จุดในสามปีข้างหน้า และ EV Charger ต่อไป”